วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เทียวพม่าด้วยตัวเอง 1

ม่ต้องจ่ายแล้วจ่  เทียวพม่าด้วยตัวเอง 20-24 มกราคม 2557
     ขั้นตอนแรกก่อนไปต้องไปทำวีซ่าที่ถสถานฑูตพม่าก่อนครับ
วีซ่าท่องเที่ยว : เอกสารที่ต้องใช้
  1. - หนังสือเดินทาง (Passport) เล่มจริง ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน และมีที่ว่างอย่างน้อย 3 หน้า พร้อมสำเนาหน้า-หลัง และเล่มเก่า(ถ้ามี)
  2. - รูปสีพื้นหลังขาว ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ถ่ายไว้ไม่เกิน 5 เดือน
  3. - แบบฟอร์มวีซ่าที่กรอกข้อมูลถูกต้องครบถ้วน พร้อมเซ็นต์ชื่อ 1 ชุด
  4. - หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
  5.   - ค่าธรรมเนียมวีซ่าสถานทูต 1,000 บาท / คน
  6.    - ค่าบริการยื่นวีซ่าท่องเที่ยว 1,200 บาท / คน
  7.    - หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมวีซ่า อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสถานทูต

สถานทูตพม่า (MYANMAR EMBASSY)

ที่ตั้ง :132 ซ.71 ถ.สาทรเหนือ กทม. 10500
Tel. :02-233-2237, 02-234-4789, 02-223-7250
Fax. :02-236-6898
E-mail. :-
เวลาทำการ :เปิดทำการ จันทร์ - ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดสถานทูต
เวลายื่นวีซ่า :9.00-12.00 น.
เวลารับวีซ่า :15.30-16.30 น.
ระยะเวลาดำเนินการ :3 วันทำการ

หน้าตาของวีซ่าพม่าก็เป็นรูปแบบนี้ครับ





  •  จากนั้นก็รอวันเดินทางส่วนผมเดินทางไปในวันที่ 20 มกราคม 57ที่สนามบินตอนเมืองครับออกเดินทาง
  •   เวลา 17.45 น.เที่ยวบินที่ FD 2753  ถึงสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง 1 ชั่วโมงเศษครับ  



กำลังจะถึงสนามบินพม่าครับ แล้วผมก็เดินทางตามนักเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวยุโรปมากกว่าครับ
แต่รอนานหน่อยครับที่สนามบิน ต้องเรียงคิวตรวจคนเข้าเมืองซึ่งบินครั้งแรกของผมที่เดินทางเข้าพม่า ตอนแรกก็
จะไปด้วยกันกับเพื่อน แต่มีเหตุการณ์ที่เพื่อนไม่ได้ไปด้วย ผมต้องเดินทางคนเดียว ดีที่ผมทำการบ้านมาเยอะก่อนมา
พอถึงคิวผมก็ไปยืนตรวจคนเข้าเมือง ผ่านครับ


   ด้านหน้าของสนามบินครับผม  ผมต้องไปโรงแรมที่ผมจองไว้ ผ่านทาง agoada ไว้จากสนามบินถึงที่พักของผม
  ค่าแท็รกซี่ 9 ดอลล่าครับ ที่แรกผมอ่านหนังสือก่อนมาเขาบอกว่า ค่าแทร็กซี่ประมาณ 8 ดอลล่าสูงสุด ผมกางแผนที่
  ให้เขาดูเขาบอกว่าไกล เขาขอผมอีก 1 ดอลล่า ก็เลยไปมันก็ไกลๆจริงครับ



                                                โรงแรมที่ผมจองไว้ครับ


   ได้ห้องนี้ครับผม ไกล้จากตัวเมืองหลายกิโลเมตรอยู่ครับ แล้วผมก็เช็คอิน แล้วก็เดินออกไปทานข้าวไกล้โรงแรม
   ไปวันแรกยังไม่กล้าถ่ายรูปมากครับ ในยามค่ำคืนของเมืองย่างกุง ประเทศพม่า


ลืมบอกไปครับว่าก่อนผมเดินทางมาพม่า ผมไปแลกเงินที่สนามบินดอนเมืองชั้น 3 บอกที่แลกเงินว่าจะไปเที่ยวพม่าครับ
แล้ว เจ้าหน้าที่จะ จัดการเงินให้เราเองครับ ให้แลกเงินของพม่าไว้ใช้จ่ายสัก 100 ดอลล่าครับ แล้วก็เก็บเงิน ดอลล่าย่อยๆไว้จ่ายตอนเข้าชม สถานที่ต่างครับ หมายเหตุนะครับ การแลเงินในพม่าอย่าให้เงินดอลล่า ยับหรือเป็นรอยพับเป็นเด็ดขาด ต้องเป็นแบงค์ใหม่เท่านั้นครับ เขาถึงจะแลกให้เพราะ รัฐบาลเขาป้องกันเงินปลอมด้วยครับ



  หลังจากเดินทางมาผมก็พักผ่อนทั้งคืน ในตอนเช้าตื่นแต่เช้าถือหนังสือเล่มหนึ่ง และกล้อง 1 ตั้วและเวลาไปไหนอย่าลืม Pass port ติดตัวเป็นอันขาดครับ พอมาถึงสถานีรถไฟ ในพม่าผมก็ซื้อตัวไปเมือง หงษ์สาครับ ชื่อในภาษาอังกฤษ
Bago ครับ เจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไปดีมากๆๆครับ เขาจะให้เราซื้อตั๋วก่อนในฐานะเราเป็นนักท่องเที่ยวครับ ซื้อตั๋วเสร็จก็เตรียมตัวออกไปที่ขึ้นรถไฟจะมีรั้วกั้นไว้ เราต้องแสดงตั๋วก่อนถึงเขาไปได้ครับ

                                                            ช่องซื้อตั๋วครับ



  
                                 เขาก็คงเหมือนผมครับที่มองหาโบกี้ แต่ผมเร็วกว่าก็เลยขึ้นก่อนครับ

  
       ขอสักรูปก่อนออกเดินทางไปเมืองหงษ์สาครับ วานให้เจ้าหน้าในสถานีรถไฟถ่ายให้ครับ


                 บรรยากาศเหมือนอยู่กับคนอินเดียครับ  แต่ผู้คนน่ารักยิ้มง่ายทั้งๆที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทำให้ผมอุ่นใจทไให้ผมไม่กลัวคนพม่า  ผมก็มองสองข้างทางจากเมืองย่างกุ้ง ไป เมืองหงษ์สาใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆๆ ในตู้โบกี้มีคนมาขายของตลอด พูดเป็นภาษาพม่าผมไม่รู้เรืองได้แต่ยิ้มครับ 

                        
                                                   บรรยากาศยังอยู่เขตเมืองครับ


                                                            เขตเมืองเหมือนกันครับ

                                                 เริ่มออกนอกเมืองแล้วครับ


                                 ตนขายหนังสือพิมครับ ตนพม่าส่วนมากชอบอ่านหนังสือพิมพ์ครับ



 ระหว่างทางเห็นคนกำลังไถนาครับ เหมือนบ้านเราเลยครับ แต่ผมมิทราบเหมือนกันว่าเขาทำนากี่ฤดูกัน ตรงนี้มีน้ำเยอะ
พอที่จะทำนา แต่พอผ่านอีกที่ก็เริ่มแห้งๆแล้วครับ สงสัยตรงนี้ไกล้แม่น้ำครับ คิดเอาเองครับผม


     ถึงสถานีรถไฟเมืองหงษ์สาแล้วครับตื่นเต้นมากๆๆ จะไปทางไหนดีนี้ ต้องเปิดหนังสือครับ ผมไปตามหนังสือจริงๆๆ
มันช่วยได้มากครับข้อมูลเพียบครับ Lonely Planet เล่มละ 800 บาทได้มาใช้งานจริงครับ 

 ผม เห็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนนั้นก็คงเหมือนผมครับ ออกมาข้างนอกจะมีรถมอไซคฺรับจ้างมารอรับต้องต่อราคาดีๆๆครับผม ผมตัดสินใจไปมอไซค์รับจังครับผม ผมจ่ายเงินดอลล่าไปโชคดีครับที่เขารับเงินดอลล่าผม เพราะว่าผมจะมีปัญหาเรื่องการใช้เงิน ไม่ว่าใน กัมพูชา ลาว ผมไม่เก่งกับเงินหลักสูงๆๆ






 ภาพ แรกที่ผมเห็นสวยมากครับ ยิ่งใหญ่มากครับแล้วผมก็เดินเข้าไปบนทางเข้านี้คือ Shwemawdaw Pagoda Bago ครับผมเดินเข้า เขาก็พูดเป็นภาษาอังกฤษ บอกให้ผมซื้อตั๋วเข้าชม 8 ดอลล่าครับกล้อง ฟรีครับเขาจะมีสัญญาลักษณ์ให้เห็นได้ชัด ผมก็เดินชื่นชมความงามของเจย์ดีครับ แล้วได้ยินเสียงพูดภาษาไทย กลุ่มใหญ่เลยครับ ด้วยผมก็คนไทยมาคนเดียว ผมก็กล่าวคำว่าสวัสดี เพื่อจะวานให้เขาถ่ายรูปให้ ก็ขอขอบคุณมากๆๆครับ ดีใจครับที่มีคนถ่ายรูปให้เขาก็เดินตามไกค์ไปผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆๆครับ

      
                                                   ขอบคุณคนไทยด้วยกันครับที่ถ่ายรูปให้


                                                    ยิ่งใหญ่จริงครับ


                                                               มุมสวยของเจย์ดีครับ
                                                        
                                               
     
           ทางเข้าครับลืมบอกไปว่าเวลาเราจะเข้าสถานที่แบบนี้ต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ ทางเดินขึ้นครับ แม่แต่ถุงเท้าก็ควรถอดครับเพราะว่าเป็นการให้เกรียติกับสถานที่นั้นๆครับ ผมเผอไม่ถอด มีคนเดินมาบอกผมเลยครับ ผมก็เลยบอกไปว่า
Sorry I forget that.เขาก็ยิ้มให้ แล้วเขาตอบว่า You are  welcome.ผู้ชายที่เดินมาบอกเขาเคี้ยวหมากปากแดงครับ แล้วเขายังยิ้มให้เราด้วยมิตรไมตรีจริงครับ 

               
      หน้าตาของบัตรเข้าชมครับ  ผมชอบเมืองนี้ครับเพราะชื้อบัตรเข้าชมที่เดียวเราสามารถเข้าผมได้ 4 ที่ในเมืองหงษ์สาซึ่งเราไม่ต้องซื้อบัตรอีก เหมือกับกำพูชาที่ นครวัดเลยครับซื้อตั๋ว 20 ดอลล่าแล้วชมได้ทุกที่เลยครับ มีส่วนคล้ายกันเพราะมันง่ายกับนักท่องเที่ยวที่จะเที่ยวครับ


มุมนี้ก็สวยครับ

ไหว้พระประจำวันเกิด

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศจะดีอยู่อย่างครับถ้าเราอ่านภาษาเขาไม่รู้เรื่องภาษากายใช้แทนได้ ผมปวดท้องฉี่อยากเข้าห้องน้ำ แต่มองไปแล้วไม่มีภาษาอังกฤษเลย ลังเลว่าจะเข้าห้องไหนดีพอดีเห็นชาวพม่าเดินมาก็เลยถามเขาแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็เลยใช้ภาษากายนี้ละถึงรู้ว่านี้เป็นห้องน้ำสำหรับผู้ชาย พอผมทำภาระกิจจากห้องน้ำออกมาก็ฝรั่งสองสามีภรรยก็เดินมาทำหน้างง เพราะอ่านออกผมก็เลยได้ช่วยแนะนำเขา ก็เป็นอะที่เป็นประสบการณ์เล่าอีกอย่าครับ

นี้ครับห้องน้ำสำหรับผู้หญิงครับ


นี้เป็นทางเดินไปสู่อีกวัดครับซึ่งเป็นภูเขาอีกลูก
ระหว่างทางเดินก็จะเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านของชาวพม่าครับ นี้คือข้าวที่เขาเอาไว้ให้นกมาจิกกินด้วยความใจบุญของคนพม่าครับ มองเกือบจะทุกหน้าบ้านเลยครับ จะมีการหาบข้าวเป็นหมัดแบบนี้เหล่ขายตามซอก-ซอยในชุมชนครับ

 โรงเรียนในชุมชนนี้ครับเด็กอยู่ในห้องเรียนครับ  เห็นเขากำลังปรับปรุงอยู่

บ่อน้ำใช้ในชุมชนครับตอนไปยังไม่คนใช้ พอขากลับคนนั่งซักผ้าเต็มเลยครับ


                                                       จะมีวัดด้วยครับระหว่างกลางทางเดิน


ผมได้ยินประวัดนี้มาว่า วัดนี้ก่อนสร้างจะมีนกการะแวกไม่รู้ผมเขียนถูกหรือเปล่า ถ้าเขียนผิดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับมาจับอยู่ในภูเขาลูกนี้จะไม่ไปไหน ซึ่งชาวบ้านมาเห็นก็เกิดความศรัทราเลยสร้างวัดนี้ขึ้นมา วันที่ผมไปจะมีการปวงศวงแต่ผมไม่กล้าถ่ายรูป เรื่องประวัติผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่เขาเล่าให้ฟัง เขาพูดภาษาอังกฤษเก่งมากครับแต่ผมอาจแปลไม่เก่ง 
อันนี้อาหารของเมืองหงษ์สาครับกับข้าวเมื้อนี้ผมจ่าย 5 ดอลล่านะครับผมไม่เก่่งใช้เงิน kyet ผมเลยขอใช้เงินดอลล่า
เขาก็รับเงินดอลล่าครับเพราะมันเป็นเมืองท่องเที่ยว อันดับผมจะถามเงินจ๊าดก่อน แต่จริงแล้วจ่ายเป็นเงินดอลล่าครับ
จะมีอาหารหลายอยู่แต่ผมถ่ายรูปไว้ก่อน แต่น้ำฟรีนะครับและจะมีน้ำตาลก้อนสดให้กินหลังกินข้าวด้วบครับใจดีจริงๆ แต่คนเข้ามาร้านนี้ก็เยะเหมือนกันครับ
อีกมุมหนึงของวัด Shwemawdaw Pagoda In Bago

                                สิ่งนี้ถูกสร้่งขึ้นมาใหม่ อันเดินถูกทำลายไปครับ คุณลุงปั่นสามล้อเล่าให้ฟัง


ตรงนี้อันเดิมครับ

เสาร์ที่เป็นไม้จะถูกมาเก็บไว้ที่นี้ครับ




แต่ละหน้าบ้านจะเห้นได้ว่าชาวพม่ามีน้ำใจให้กับคนที่เินผ่านหน้าบ้านตัวเองมีน้ำกินไว้ให้ดับกระหาย


                                                         น้ำเมาจากต้นตาลอร่อยครับแต่กลัวเมา

                                                             
                            ฝุ่นเยอะมากครับ รอบๆเมืองหงษ์สา มีคนมาตัดยอดตาลทำน้ำที่ผมกินด้วยครับ

น้องคนนี้ถ่ายโดยแอบถ่าย พอจะถ่ายจริงอายครับ น่ารักมากๆ

ขอบคุณคุณลุงที่พาผมเที่ยว เลี้ยงเบียร์แกก่อนกลับครับ

คุณลุงพาผมเที่ยวทำให้ผมช้าเกือบไม่มีรถไปกลับไปเมืองย่างกุ้งครับ ยังดีที่มีคุณตำตรวจพม่าคนนี้ดำเนินการให้ผม
ได้กลับ รู้มัยว่าตำตรวจพม่าเขาจะช่วยนักท่องเที่ยวก่อนอันดับแรก เจ้าหน้าสถานีเขาก็ช่วยให้ผมได้มีที่นั่งเขาบอกว่าไกล้ห้องน้ำนะผมก็ บอกว่าได้ครับคุณตำตรวจถามว่าผมมาจากไหน ผมว่าจากประเทศไทยแกยิ้ม ให้ผมขอบคุณเขาในภาษาไทย ผมยกมือไหว้แสดงความขอบตุณเขาแล้วขอถ่ายรูปก่อนกลับ ตำรวจส่วนมากจะพูดภาษาอังกฤษเก่งนะครับ

ได้ที่นั่งกลับย่างกุ่งแล้ว ขอบคุณทุกคนในเมือง หงษ์สาเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืม

 ผมจ่ายค่าตั๋วรถไฟไป 2 ดอลล่าครับ

 เช้าอีกวันหายเหนื่อยจากการเที่ยว เมืองหงษ์สามา วันนี้ต่อครับที่ย่างกุ้งในตอนเช้าผมกินอาหารที่โรงแรมกาแฟ 1แก้วอยู่ท้องละวันนี้ผมก็เดินเที่ยวในเมืองย่ากุ้ง แรกๆว่าจะนักสามล้อไป ผมเลยถามพนักงานในโรงแรม เขาบอกว่าไม่ไกลคุณเดินไปราวๆ 20 นาทีถึง Sula Pagoda เลยตัดสินใจเดินชมวิธีของคนย่างกุ้งครับ ผุ้ชายส่วนมาจะใส่โสร่ง เคียวหมากครับ และทุกคนถือปิ่นโตคนละเถาครับ 
สงสัยเขาทาสีใหม่ครับ


มีโบชถ์คริสด้วยครับ

ตึกเก่าๆซึ่งเป็นของเมืองที่เคยปกครองพม่ามาก่อนหน้านี้ยังมีให้เห็นอยู่เป็นเนื่องๆครับ

ก็จะเห็นแม่ชีเดินบิฑบาตรตามท้องถนนเป็นแถวสวยงามครับ


ถึงแล้ว Sule Pagoda อยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้งพอดี ผู้คนมากมายเดินวุ่นวายสุดยอดครับอยากถ่ายรูปกับสถานที่นั้นๆแต่มันจะลำบากมากๆที่เราไปคนเดียว  พอจะให้เขาถ่ายให้เราก็เกรงใจเขาเพราะมองไปแล้วมันสวยงามอยากจะถ่ายรูป

 ค่าเข้าชม 3 ดอลล่าครับผมเอาเงิน 10 ดอลล่าให้แล้วเขาก็ทอนมาเป็นเงินดอลล่า 7 ดอลล่าครับสวยงามมากต้องถอดรองเท้านะครับอย่าลืม ผมเข้าไปชมรอบๆเสร็จแล้วผมก็เดินออกมา ไปเอารองเท้าคืน คนเฝ้ารองเท้าก็พูดภาษาอังกฤษขึ้นมาว่าบริจาคเงินหน่อยนะคะสำหรับการดูแลรองเท้าให้ประมาณนี้ผมก็เลย เอาเงิน 1000 Kyet ย่อนลงตู้ เธอก็บอกว่า Thank you ผมนึกว่าไม่ได้จ่ายอีก แต้ก็ไม่เป้นไรเป้นการทำบุญเพราะอยู่ต่างประเทศเราต้อง ดูค่าใช้จ่ายตลอดครับ
เจย์ดีกับตึกสมัยใหม่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

แล้วผมก็เดินมาเที่ยวอีกวัดครับวัดนี้ผมเห็นคนไทยเยอะมากๆๆครับคณะทัวร์ 3-5 ทัวร์ซึ่งอยู่วัดนี้ทุกคนตั้งใจมาไหว้เทพทันใจและพระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้า ตื่นตาตื่นใจจริงๆไม่น่าเชื่อว่าผมจะมาถึงได้ และเหมือนอยู่ในบ้านเราเลยเพราะว่าได้ยินคนไทยคุยกัน แล้วผมก็วานให้คนไทย ถ่ายรูปให้ต้องขอบคุณคนไทยที่ไปแสวงบุญมากๆๆครับ ชือวัดนี้คือ Botataung Pagoda ครับผมจ่ายเงินค่าเข้าเยี่ยมชม 5 ดอลล่าครับ ผมเอา แบงค์ที่ถูกทอนมาจาก Sula Pagoda มาจ่ายผมถูกปฎิเสธเงินแบงค์ดอลล่าที่มีรอยพับ ผมจำคำเจ้าหน้่าที่พูดเต็มหูเลย  Sorry We do not accept this dolla แววผมเพิ่งถูกทอนมาจากอีกที่ก็ใช้ไม่ได้แล้ว เป็นรอบพับนิดหนึ่งก็เลยเป็นประการจากการอ่านข้อมูลก่อนไป ตรงกับที่เขาเขียนไว้จริง  เพิ่งครั้งแรกและครังเดียวครับทุกที่เขาจะตวจสอบเงินดอลล่าทุกคั้งที่เราจ่ายไป แต่เงินพม่าเก่าๆๆเขาก็ยังใช้ครับ
                           
                                            ที่นี้ครับคนไทยกำลังเรียงคิวกันเข้าไปไหว้เทพทันใจครับ



เทพกระซิบอยู่ตรงข้ามกับวัดครับแต่มีชาวพม่าเยอะครับตรงนี้
                                                    

1 ความคิดเห็น: